เลือกความเข้มฟิล์มกรองแสงให้ลงตัวกับทุกการใช้งานในบ้าน

ฟิล์มกรองแสงเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายในบ้านและอาคาร ไม่เพียงแต่ช่วยลดความร้อนจากแสงแดด แต่ยังช่วยป้องกันรังสีอันตราย เช่น รังสี UV และรังสีอินฟราเรด (IR) ที่ส่งผลต่อสุขภาพและความเสียหายของเฟอร์นิเจอร์ การเลือกฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ
เพื่อให้ตอบโจทย์การใช้งานในแต่ละพื้นที่ได้อย่างลงตัว

ระดับความเข้มของฟิล์มกรองแสง: เลือกอย่างไรให้เหมาะสม

1. ฟิล์มใส (ความเข้มต่ำกว่า 40%)

เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความโปร่งใส เช่น ห้องนั่งเล่นหรือร้านค้า ฟิล์มใสช่วยลดความร้อนและป้องกันรังสี UV ได้ดี โดยยังคงความใสของกระจก
ทำให้พื้นที่ดูโปร่งโล่งและสบายตา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแสงธรรมชาติในห้อง

2. ระดับความเข้ม 40%

ฟิล์มระดับนี้เหมาะสำหรับบ้านและคอนโดที่ต้องการลดแสงจ้าและความร้อน โดยยังคงความโปร่งใส สามารถมองเห็นวิวภายนอกได้อย่างชัดเจน
เหมาะสำหรับห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน หรือพื้นที่ที่ต้องการความสว่าง

3. ระดับความเข้ม 60%

เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการลดความร้อนและเพิ่มความเป็นส่วนตัว เช่น ห้องนอนหรือห้องประชุม ฟิล์มระดับนี้ช่วยลดแสงจ้าได้ดี โดยยังคงความสว่าง
ในห้องได้พอสมควร

4. ระดับความเข้ม 80%

เหมาะสำหรับพื้นที่ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวสูงสุด เช่น หลังคาสกายไลท์หรือห้องที่โดนแดดจัดตลอดทั้งวัน ฟิล์มระดับนี้ช่วยป้องกันการมองเห็น
จากภายนอกได้อย่างสมบูรณ์แบบ และลดความร้อนจากแสงแดดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ปัจจัยสำคัญในการเลือกฟิล์มกรองแสง

  1. ทิศทางของแสงแดด
    หากกระจกหันไปทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ที่รับแสงแดดแรง ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มสูง เช่น 60% หรือ 80% เพื่อช่วยลดความร้อนและแสงจ้า
  2. ความต้องการด้านความเป็นส่วนตัว
    หากต้องการความเป็นส่วนตัวในพื้นที่ เช่น ห้องนอนหรือห้องน้ำ ควรเลือกฟิล์มที่มีความเข้มสูง แต่หากเป็นพื้นที่ที่ต้องการความโปร่งใส เช่น
    ห้องนั่งเล่นหรือห้องทำงาน อาจเลือกฟิล์มที่มีความเข้มระดับต่ำ เช่น ฟิล์มใสหรือ 40%
  3. การป้องกันรังสี IR และ UV
    เลือกฟิล์มที่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99% และลดการส่งผ่านรังสี IR ได้ดี เพื่อช่วยลดความร้อนและปกป้องสุขภาพของผู้อยู่อาศัย
  4. ความสว่างและการมองเห็นวิว
    หากต้องการพื้นที่ที่ยังคงความสว่างและโปร่งโล่ง เช่น ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ควรเลือกฟิล์มที่มีความใสหรือความเข้มระดับต่ำ เช่น ฟิล์มใสหรือ 40%

ประโยชน์ของฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสม

  1. ลดความร้อนและแสงจ้า
    ฟิล์มกรองแสงช่วยลดความร้อนจากรังสี IR และแสงแดด ทำให้พื้นที่ภายในเย็นสบายขึ้น
  2. ป้องกันรังสี UV
    ฟิล์มกรองแสงส่วนใหญ่สามารถป้องกันรังสี UV ได้ถึง 99% ช่วยปกป้องผิวหนังและลดความเสียหายของเฟอร์นิเจอร์
  3. เพิ่มความเป็นส่วนตัว
    ฟิล์มกรองแสงที่มีความเข้มสูงช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว โดยลดการมองเห็นจากภายนอก
  4. ประหยัดพลังงาน
    การลดความร้อนจากแสงแดดช่วยลดการใช้พลังงานในบ้านและอาคาร ทำให้ประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาว
  5. เพิ่มความสวยงามให้กับพื้นที่
    ฟิล์มกรองแสงช่วยเพิ่มความสวยงามให้กับกระจกและพื้นที่ภายในบ้านหรืออาคาร ทำให้ดูทันสมัยและมีสไตล์มากขึ้น

บริการติดตั้งฟิล์มกรองแสง VR-PRO FILM

หากคุณกำลังมองหาฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูง พร้อมบริการติดตั้งที่ได้มาตรฐาน VR-PRO FILM คือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ ด้วยทีมงานมืออาชีพที่พร้อม
ให้คำแนะนำและติดตั้งฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสมกับบ้านของคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกความเข้มที่ลงตัว หรือการป้องกันรังสี UV และ IR อย่างมีประสิทธิภาพ VR-PRO FILM พร้อมช่วยให้บ้านของคุณเย็นสบายและปลอดภัยในทุกมิติ

เลือกฟิล์มกรองแสงให้ลงตัวกับทุกการใช้งานในบ้าน

การเลือกฟิล์มกรองแสงที่เหมาะสมไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังช่วยปกป้องบ้านจากรังสีอันตราย เช่น รังสี UV และ IR รวมถึงช่วย
ประหยัดพลังงานและเพิ่มความสวยงามให้กับบ้านของคุณ การพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ทิศทางของแสงแดด ความต้องการด้านความเป็นส่วนตัว
และระดับความเข้มของฟิล์ม จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างมั่นใจ และได้รับประโยชน์สูงสุดจากฟิล์มกรองแสงที่เลือกใช้

เว็บไซต์นี้มีการจัดเก็บคุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งานของท่าน และการมอบบริการที่ดีที่สุดจากเรา กรุณากดยอมรับ คุณสามารถเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้งานคุกกี้ของเราได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

ตั้งค่าความเป็นส่วนตัว

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
จัดการความเป็นส่วนตัว
  • เปิดใช้งานตลอด

บันทึกการตั้งค่า