การตัดสินใจเลือกบ้านสำหรับครอบครัวเป็นการลงทุนทั้งในด้านเวลาและเงินทุน การตรวจบ้านก่อนเข้าอยู่จึงเป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้คุณมั่นใจว่าบ้านที่คุณเลือกนั้นมีคุณภาพและปลอดภัย ทั้งในด้านโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ระบบประปา รวมถึงความเรียบร้อยโดยรวมของบ้าน บทความนี้จะนำเสนอ 5 สิ่งที่ควรตรวจสอบก่อนเข้าอยู่ พร้อมกับเคล็ดลับและเทคนิคที่ได้รับการแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในการตรวจบ้าน (ตรวจบ้าน) เพื่อให้การตัดสินใจของคุณเป็นไปอย่างมั่นใจและปลอดภัยสำหรับครอบครัว
1. ตรวจสอบโครงสร้างและความสมบูรณ์ของบ้าน
โครงสร้างของบ้านคือรากฐานสำคัญที่ส่งผลต่อความปลอดภัยในระยะยาว คุณควรตรวจสอบรายละเอียดต่าง ๆ เช่น
- รอยร้าวบนผนัง เสา และพื้น ซึ่งอาจบ่งบอกถึงปัญหาการทรุดตัวของฐานราก
- สภาพหลังคาและฝ้าเพดานว่ามีรอยรั่วซึมหรือคราบน้ำที่เกิดจากความชื้น
- เปรียบเทียบสภาพบ้านกับแบบแปลนก่อสร้างที่ระบุไว้ในเอกสารรับประกันหรือใบอนุญาต
เคล็ดลับ: ใช้ไฟฉายส่องตรวจในบริเวณมืด เช่น ใต้หลังคาหรือมุมซอกแอบ เพื่อหาสัญญาณของการเกิดเชื้อราและความชื้น
2. ระบบไฟฟ้าและประปา
ระบบไฟฟ้าและประปาที่มีความผิดปกติอาจส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและความสะดวกสบายของการอยู่อาศัย
- ทดสอบสวิตช์ไฟ ปลั๊กไฟ และแผงควบคุมไฟฟ้า เพื่อให้แน่ใจว่าอุปกรณ์ทุกชิ้นทำงานได้อย่างถูกต้อง โดยใช้เครื่องทดสอบปลั๊กไฟ (Socket Tester) ในการตรวจสอบความปลอดภัย
- ตรวจสอบแรงดันน้ำจากก๊อกทุกจุดและความสมบูรณ์ของระบบประปา ว่ามีการรั่วซึมหรือปัญหาการระบายของเสียหรือไม่
- ทดสอบการทำงานของชักโครก ระบบระบายน้ำในห้องน้ำและครัว เพื่อป้องกันปัญหาการเกิดน้ำขังในอนาคต
เคล็ดลับ: การตรวจสอบระบบประปาในช่วงเวลาที่ใช้งานจริง เช่น เปิดน้ำทุกก๊อกพร้อมกัน อาจช่วยเปิดเผยปัญหาที่เกิดจากแรงดันน้ำต่ำหรือการรั่วซึม
3. ประตู หน้าต่าง และวัสดุตกแต่งภายใน
ความเรียบร้อยของประตู หน้าต่าง และรายละเอียดตกแต่งภายในมีผลต่อความรู้สึกปลอดภัยและสุขอนามัยของบ้าน
- ตรวจสอบการเปิด-ปิดของประตูและหน้าต่างว่าราบรื่นและปิดสนิทเพื่อป้องกันลมและฝุ่น
- ตรวจดูสภาพของพื้นไม้ กระเบื้อง หรือวัสดุตกแต่งว่ามีรอยแตก รอยหลุดร่อน หรือสีที่หลุดลอกเกิดขึ้นหรือไม่
- ประเมินความเรียบร้อยของการติดตั้ง เช่น ระบบล็อกที่แข็งแรงและมีความปลอดภัย
เคล็ดลับ: การทดสอบความเรียบร้อยของพื้นบ้านด้วยเทคนิคการปล่อยลูกแก้วหรือเครื่องวัดความเรียบจะช่วยให้คุณแน่ใจว่าพื้นผิวบ้านไม่มีความผิดปกติ
4. พื้นที่ภายนอกและสิ่งอำนวยความสะดวก
สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ภายนอก เช่น ระเบียง สวน หรือที่จอดรถ ควรมีการตรวจสอบอย่างละเอียด
- ตรวจสอบรอยร้าวหรือการสึกกร่อนของรั้ว สนามหญ้า และพื้นที่เดินอย่างรอบคอบ
- ตรวจสอบระบบระบายน้ำภายนอก เพื่อให้แน่ใจว่าน้ำฝนสามารถไหลออกได้ดีและไม่สร้างความเสียหาย
- สังเกตสภาพของทางเข้าบ้านและพื้นที่ใกล้เคียง ว่ามีสิ่งกีดขวางหรือปัญหาความปลอดภัยที่อาจส่งผลต่อการใช้งานประจำวัน
เคล็ดลับ: การตรวจสอบในวันที่มีฝนตกหรือหลังฝนตกเล็กน้อยจะช่วยให้เห็นภาพของระบบระบายน้ำภายนอกอย่างแท้จริง
5. เอกสารและการรับประกัน
เอกสารที่เกี่ยวข้องกับบ้านและการรับประกันเป็นหลักฐานสำคัญที่ช่วยให้คุณมั่นใจในคุณภาพของบ้าน
- ตรวจสอบแบบแปลนบ้านและใบอนุญาตก่อสร้างของโครงการ เพื่อเปรียบเทียบกับสภาพบ้านจริง
- ประเมินเอกสารการรับประกันงานก่อสร้างและวัสดุที่ใช้ เพื่อทราบระยะเวลาการรับประกันและเงื่อนไขที่เกี่ยวข้อง
- หากเป็นบ้านใหม่ ให้ตรวจสอบรายการตรวจรับบ้านที่โครงการจัดเตรียมไว้ให้ เพื่อบันทึกปัญหาที่พบก่อนการรับมอบบ้าน
เคล็ดลับ: การเก็บเอกสารสำคัญทั้งหมดไว้ในที่ที่ปลอดภัยและตรวจสอบข้อมูลให้ครบถ้วนจะเป็นประโยชน์ในกรณีที่ต้องการอ้างอิงหรือเจรจาแก้ไขปัญหาในอนาคต
สรุป
การตรวจบ้านก่อนเข้าอยู่เป็นการป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นและช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าบ้านซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของครอบครัวมีความปลอดภัยและพร้อมใช้งาน ตรวจสอบโครงสร้าง ระบบไฟฟ้า ระบบประปา รวมถึงรายละเอียดทั้งภายในและภายนอกอย่างละเอียดเป็นขั้นตอนที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณไม่มั่นใจในความสามารถของตนเอง การจ้างผู้เชี่ยวชาญด้านตรวจบ้านก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้คุณได้รับความมั่นใจสูงสุดในการรับมอบบ้านในฝัน