ฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคารเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยลดความร้อน ป้องกันรังสียูวี และเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับบ้านหรืออาคารของคุณ แต่หลายคนอาจยังดูแลฟิล์มกรองแสงผิดวิธี ซึ่งอาจทำให้ฟิล์มเสื่อมสภาพเร็วกว่าที่ควร วันนี้เราจะมาแนะนำวิธีดูแลฟิล์มกรองแสงอย่างถูกต้อง พร้อมแก้ไขความเข้าใจผิดที่พบบ่อย เพื่อให้ฟิล์มของคุณใช้งานได้ยาวนานและคุ้มค่าที่สุด
ความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการดูแลฟิล์มกรองแสง
1. ฟิล์มกรองแสงไม่ต้องการการดูแล
หลายคนคิดว่าฟิล์มกรองแสงไม่ต้องการการดูแลรักษาใด ๆ หลังการติดตั้ง แต่ความจริงแล้ว ฟิล์มต้องการการทำความสะอาดอย่างเหมาะสม เช่น การใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์และน้ำสะอาด หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาที่มีสารเคมีรุนแรง เช่น แอมโมเนีย เพราะอาจทำให้ฟิล์มเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
2. การใช้วัสดุหยาบทำความสะอาด
บางคนอาจใช้กระดาษหนังสือพิมพ์หรือสก็อตช์ไบรต์ในการเช็ดฟิล์ม ซึ่งอาจทำให้ฟิล์มเกิดรอยขีดข่วนได้ง่าย ควรเลือกใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่นุ่มและไม่มีฝุ่นแทน
3. ทำความสะอาดทันทีหลังติดตั้ง
หลังการติดตั้งฟิล์ม หลายคนรีบทำความสะอาดทันที แต่ความจริงคือ ควรรอให้กาวของฟิล์มเซ็ตตัวอย่างสมบูรณ์ก่อน (ประมาณ 1-4 สัปดาห์) เพื่อป้องกันการเลื่อนหรือหลุดของฟิล์ม
4. ฟิล์มกรองแสงทุกชนิดมีอายุการใช้งานเท่ากัน
อายุการใช้งานของฟิล์มขึ้นอยู่กับคุณภาพของฟิล์มและการดูแลรักษา ฟิล์มคุณภาพดีจะมีอายุการใช้งาน 5-10 ปี หรือมากกว่านั้น หากดูแลอย่างเหมาะสม
ผลกระทบจากการดูแลฟิล์มกรองแสงผิดวิธี
การดูแลฟิล์มกรองแสงผิดวิธีอาจส่งผลกระทบต่อฟิล์มในหลายด้าน เช่น:
- ฟิล์มเสื่อมสภาพก่อนเวลา: การใช้สารเคมีรุนแรงทำให้กาวของฟิล์มเสื่อมสภาพ
- เกิดรอยขีดข่วน: การใช้อุปกรณ์ทำความสะอาดที่ไม่เหมาะสม เช่น แปรงแข็ง หรือกระดาษหนังสือพิมพ์
- ฟองอากาศและฟิล์มลอก: การทำความสะอาดในช่วงที่ฟิล์มยังไม่เซ็ตตัวเต็มที่
- ลดประสิทธิภาพการกรองแสง: ฟิล์มที่เสื่อมสภาพจะไม่สามารถป้องกันรังสี UV และลดความร้อนได้ดีเหมือนเดิม
วิธีดูแลฟิล์มกรองแสงอย่างถูกต้อง
1. ทำความสะอาดอย่างเหมาะสม
- ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ชุบน้ำสะอาดหรือสบู่อ่อน เช็ดเบา ๆ บนฟิล์ม
- หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาล้างกระจกที่มีแอมโมเนีย เพราะอาจทำให้ฟิล์มแข็งกระด้างและเสื่อมสภาพ
2. หลีกเลี่ยงการขูดหรือกระแทก
อย่าใช้ของมีคมหรือวัสดุแข็งขูดฟิล์ม เพราะอาจทำให้ฟิล์มเสียหายหรือเกิดรอยขีดข่วน
3. ปล่อยให้ฟิล์มเซ็ตตัวหลังติดตั้ง
หลังการติดตั้งฟิล์ม ควรรออย่างน้อย 30 วันก่อนทำความสะอาด เพื่อให้กาวของฟิล์มเซ็ตตัวอย่างสมบูรณ์
4. ตรวจสอบฟิล์มเป็นระยะ
หากพบฟองอากาศหรือฟิล์มลอก ควรติดต่อผู้ติดตั้งเพื่อแก้ไขทันที โดยเฉพาะในช่วงระยะเวลารับประกัน
5. เลือกฟิล์มคุณภาพสูง
การเลือกฟิล์มที่มีคุณภาพดีตั้งแต่แรกจะช่วยลดปัญหาการเสื่อมสภาพ และควรเลือกฟิล์มที่เหมาะสมกับสภาพอากาศในพื้นที่
สรุป
การดูแลฟิล์มกรองแสงสำหรับอาคารอย่างถูกวิธีไม่เพียงช่วยยืดอายุการใช้งาน แต่ยังช่วยรักษาประสิทธิภาพในการกรองแสงและป้องกันรังสี UV ได้ดีอีกด้วย หลีกเลี่ยงการใช้อุปกรณ์หรือสารเคมีที่อาจทำลายฟิล์ม และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ติดตั้งอย่างเคร่งครัด เพื่อให้ฟิล์มของคุณคงความสวยงามและใช้งานได้ยาวนานที่สุด
หากคุณกำลังมองหาฟิล์มกรองแสงคุณภาพสูง อย่าลืมเลือกฟิล์มที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเพื่อการติดตั้งที่ถูกต้อง!