แสงแดดที่ส่องผ่านหน้าต่างเข้ามาในบ้าน ไม่ได้แค่เพิ่มความสว่างหรือความอบอุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เฟอร์นิเจอร์หลายประเภทเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ โดยเฉพาะรังสียูวี (UV) และความร้อนจากแสงแดดที่สามารถทำลายโครงสร้างและสีของวัสดุต่าง ๆ ได้อย่างเงียบ ๆ จนคุณอาจไม่ทันสังเกต
เฟอร์นิเจอร์ที่เสี่ยงเสียหายจากแสงแดดมากเป็นพิเศษ
เฟอร์นิเจอร์ที่ควรระวังเป็นพิเศษเมื่อโดนแดดจัด ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ไม้ (ทั้งไม้จริงและไม้สังเคราะห์) ซึ่งเป็นวัสดุธรรมชาติที่ไวต่อรังสียูวีและความร้อน เมื่อโดนแดดจัดเป็นเวลานาน สีของไม้จะซีดจางลง ผิวหน้าไม้แห้งกรอบ อาจเกิดการแตกร้าวหรือบิดงอได้ง่าย โดยเฉพาะไม้ที่ไม่ได้เคลือบสารป้องกันแสงแดดหรือวางในจุดที่โดนแดดโดยตรง
เฟอร์นิเจอร์หนัง (ทั้งหนังแท้และหนังสังเคราะห์) ก็ไวต่อแสงแดดมากเช่นกัน ความร้อนและรังสียูวีจะทำให้หนังแห้ง แข็งตัว แตกลาย สีซีดจาง และอายุการใช้งานสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด
เฟอร์นิเจอร์ผ้า เช่น ผ้าบุโซฟา เก้าอี้ หรือม่านที่ทำจากผ้าธรรมชาติอย่างผ้าฝ้าย ลินิน หรือผ้าสังเคราะห์บางชนิด เมื่อโดนแดดจัด สีจะซีดจางเร็ว ผ้าอาจเปราะหรือขาดง่ายขึ้น
เฟอร์นิเจอร์พลาสติก โดยเฉพาะพลาสติกเกรดต่ำ เมื่อโดนแดดจัดจะเปราะ แตกหักง่าย สีซีดหรือเหลืองกรอบเร็วกว่าปกติ
แม้แต่เฟอร์นิเจอร์โลหะ หากโดนแดดจัดและความชื้นร่วมด้วย อาจเกิดสนิมหรือสีลอกได้ โดยเฉพาะโลหะที่ไม่ได้เคลือบกันสนิม
ทำไมเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้ถึงพังง่ายเมื่อโดนแดด?
รังสียูวีในแสงแดดจะเข้าไปทำลายโมเลกุลของสีและโครงสร้างวัสดุโดยตรง ส่งผลให้สีซีดจาง ผิววัสดุแห้งกรอบ แตก หรือเปราะง่ายขึ้น ยิ่งเฟอร์นิเจอร์ที่วางใกล้หน้าต่างหรือในห้องกระจกที่แสงแดดส่องถึงตลอดวัน จะยิ่งเสื่อมสภาพเร็วกว่าเฟอร์นิเจอร์ที่อยู่ในร่ม
ฟิล์มกรองแสงช่วยปกป้องเฟอร์นิเจอร์ได้จริงหรือไม่?
การติดฟิล์มกรองแสงที่หน้าต่าง ช่วยได้มาก ในการป้องกันเฟอร์นิเจอร์จากความเสียหายที่เกิดจากแสงแดดโดยตรง โดยเฉพาะรังสียูวี (UV) ซึ่งเป็นตัวการหลักที่ทำให้วัสดุต่าง ๆ เสื่อมสภาพเร็วขึ้น
ข้อดีของการติดฟิล์มกรองแสง
ฟิล์มกรองแสงคุณภาพดีสามารถกรองรังสียูวีได้มากถึง 99% ช่วยลดการซีดจางของสีไม้ หนัง ผ้า และพลาสติก ลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้าน ทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม่โดนความร้อนสะสมจนแห้งกรอบหรือแตกลาย อีกทั้งยังช่วยประหยัดพลังงาน เพราะบ้านเย็นขึ้น ไม่ต้องเปิดแอร์หนัก และลดแสงจ้า ทำให้บรรยากาศในบ้านนุ่มนวลขึ้น
ข้อควรระวังในการเลือกฟิล์มกรองแสง
ฟิล์มกรองแสงแต่ละชนิดมีประสิทธิภาพต่างกัน ควรเลือกแบบที่เน้นกันรังสียูวีโดยเฉพาะ หากต้องการกันความร้อนและยูวีสูงสุด ควรเลือกฟิล์มที่มีค่ากันยูวี (UV Protection) และกันอินฟราเรด (IR) สูง และควรเลือกความเข้มของฟิล์มให้เหมาะกับความต้องการแสงธรรมชาติในบ้าน
ป้องกันรังสียูวีเพิ่มเติม
นอกจากการติดฟิล์มกรองแสงแล้ว ยังสามารถป้องกันเฟอร์นิเจอร์จากแสงแดดได้ด้วยการหลีกเลี่ยงการวางเฟอร์นิเจอร์ไว้ในจุดที่โดนแดดโดยตรง ใช้ม่านกันแดด เลือกเฟอร์นิเจอร์ที่เคลือบสารป้องกันยูวี หรือดูแลรักษาด้วยผลิตภัณฑ์เฉพาะทาง และเคลื่อนย้ายตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์เป็นระยะ เพื่อไม่ให้จุดเดิมโดนแดดซ้ำ ๆ
สรุป
เฟอร์นิเจอร์ที่ควรระวังเป็นพิเศษเมื่อโดนแดดจัด ได้แก่ เฟอร์นิเจอร์ไม้ หนัง ผ้า พลาสติก และโลหะที่ไม่ได้เคลือบกันสนิม หากต้องการยืดอายุการใช้งาน ควรป้องกันแสงแดดด้วยวิธีที่เหมาะสม โดยเฉพาะการติดฟิล์มกรองแสงที่หน้าต่าง ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่า เพื่อให้บ้านของคุณดูใหม่และน่าอยู่ไปนาน ๆ